ห้วงเวลาที่ผ่านมา เกิดกระแสความกังวลใจของผู้บริโภค เกี่ยวกับความปลอดภัยของผักไฮโดรโปนิกส์ ทั้งเรื่องการตรวจพบการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัดแมลง และสารไนเตรตก่อให้เกิดมะเร็ง
เพื่อหาคำตอบให้กับสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้จัดโครงการวิจัย “การพัฒนาต้นแบบการผลิตผักไฮโดรโปนิกส์เพื่อส่งเสริมการบริโภคที่ปลอดภัย” โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มี ผศ.ดร.วราภา มหากาญจนกุล ภาควิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร เป็นหัวหน้าทีมนักวิจัย ประกอบด้วย ผศ.ดร.กนิฐพร วังใน ผศ.ดร.กฤษกมล ณ จอม และ ดร.กุลนาถ ทองขาว และภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรฯ กำแพงแสน โดย รศ.ดร.ธรรมศักดิ์ ทองเกตุ และ ดร.รุ่งนภา ก่อประดิษฐ์สกุล มาร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค และผู้ผลิตผักไฮโดรโปนิกส์
สารไนเตรต...พบได้ในธรรมชาติ ทั้งในผักที่ปลูกลงดิน หรือปลูกในสารละลายธาตุอาหาร
“สหภาพยุโรปได้ออกประกาศกฎระเบียบค่าสูงสุดของไนเตรตของผักสลัดที่ปลูกในโรงเรือนไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อ กก. (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) โดยทั่วไปแล้ว หากร่างกายมนุษย์ได้รับไนเตรตจากผักมากกว่าร้อยละ 70 จะถูกขับออกทางปัสสาวะ และผลสำรวจงานวิจัยที่ผ่านมา ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า การบริโภคผักที่มีไนเตรตตกค้างจะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง หรือเป็นพิษต่อสารพันธุกรรมในมนุษย์แต่อย่างใด แต่กรณีได้รับในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจจะก่อให้เกิดการชะงักของร่างกายในการเจริญเติบโตได้”
ผศ.ดร.วราภา เผยว่า สาเหตุของการสะสมของสารไนเตรตในผักสูง มีหลายปัจจัย ทั้งอากาศร้อน พื้นที่ปลูกมีอุณหภูมิสูง มีความเข้มแสงต่ำหรือสว่างเกินไป อากาศแห้งแล้ง การใช้สารละลายธาตุอาหารมาก (ค่า ECสูง) รางปลูกพืช น้ำ อุปกรณ์ เครื่องมือไม่สะอาดเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และแมลงศัตรูพืชเข้าทำลายได้ง่าย
วิธีการลดสารไนเตรตจะต้องควบคุมปัจจัยเหล่านี้ให้เหมาะสม ปรับอุณหภูมิ ความเข้มแสง ปรับสารละลายธาตุอาหารให้เหมาะสม การออกแบบ ฟาร์มที่ดี ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ดี
ส่วนการจัดการศัตรูพืช ต้องไม่ใช้สารเคมีพร่ำเพรื่อ...การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวจะต้องล้างทำความสะอาดทุกครั้ง
จากการทดลองในแปลงพื้นที่ เมื่อเข้าไปอบรมวิธีการควบคุมแปลง ผลการสำรวจผักไฮโดรโปนิกส์ พบว่าผักมีปริมาณไนเตรตตกค้างในระดับ 2,000 มิลลิกรัมต่อ กก. ไม่เกินค่ามาตรฐานสากล และมีปริมาณสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในระดับที่ปลอดภัย แต่ทั้งนี้การปฏิบัติภายในฟาร์ม ผู้ผลิตจะต้องดูแลให้ดียิ่งขึ้น มีการจดบันทึกการให้สารละลาย และเข้มงวดการใช้สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช
สุดท้ายอยู่ที่ตัวเกษตรกรต้องตระหนักว่า ทำอย่างไรให้ผลิตผักที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย อย่าได้ประมาท เลินเล่อ คิดแค่ผลิตออกมาขายโกยรายได้ เพราะจะกลายเป็นการทำลายอาชีพของตัวเอง.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน